วิตามินสามารถพบได้ในอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เรารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแบบแคปซูล เม็ดอัด ผง หรือน้ำ ถึงแม้ว่าเราสามารถสังเคราะห์วิตามินได้หลายตัว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีการสกัดจากแหล่งธรรมชาติมากกว่า ตัวอย่างเช่น วิตามินเอมักมาจากน้ำมันตับปลา วิตามินบีรวมได้มาจากยีสต์หรือตับ วิตามินซีจะดีที่สุดหากสกัดมาจากโรสฮิป ซึ่งเป็นเบอร์รี่ที่พบในผลของกุหลาบชนิดหนึ่ง พบได้หลังจากที่กลีบร่วงโรยแล้ว หรืออาจสกัดจากแป้งมัน และสำหรับวิตามินอี ส่วนใหญ่แล้วจะสกัดจากถั่วเหลือง จมูกข้าว สาลี หรือข้าวโพด ความต้องการของแต่ละคนต่างกันไป
ด้วยเหตุนี้เองผู้ผลิตจึงนำเสนอวิตามินในรูปแบบที่หลากหลาย
1. เม็ดอัด เป็นรูปแบบที่เจอได้บ่อยและสะดวกที่สุด ง่ายต่อการพกพา เก็บรักษาไว้ได้นานกว่าแบบผงหรือแบบน้ำ และไม่สามารถใส่สารอื่นเจือปนได้
2. แคปเลต เป็นเม็ดอัดในรูปทรงเหมือนแคปซูล อาจมีการเคลือบด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้มันแตกตัวในลำไส้เล็ก ไม่แตกตัวในกระเพาะ (ซึ่งมีความเป็นกรด)
3. แคปซูล เช่นเดียวกับเม็ดอัด สะดวกและเก็บรักษาง่าย เป็นรูปที่พบได้บ่อยสำหรับวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น เอ ดี อี มีสารปรุงแต่งยาผสมอยู่น้อยกว่าแบบเม็ดอัด
4. แคปซูลเจลาติน ทำมาจากเจลาติน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ควรเก็บให้พ้นแสง ในที่เย็นและแห้ง เพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน
5. แคปซูลมังสวิรัติ ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แป้ง น้ำตาล และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ทำมาจากเซลลูโลสและเส้นใยอาหารจากพืช ซึ่งมีความทนทานต่อปัญหาการติดเชื้อราและแบคทีเรีย สามารถเก็บในห้องที่มีอุณหภูมิสูงได้ โดยไม่ละลายหรือเกาะติดกัน ไม่มีผลกระทบจากอากาศเย็นและแห้ง ซึ่งส่งผลให้แคปซูลแบบเจลาตินเปราะ แต่โชคร้ายหน่อยที่มันอาจทำปฏิกิริยากับสารที่อยู่ในแคปซูลเอง จึงไม่เป็นที่นิยมเท่ากับแคปซูลเจลาติน และมีราคาแพงกว่าแคปซูลปกติมาก
6. ซอฟเจล (หรือเจลแคป) เป็นแคปซูลเจลาตินแบบนุ่ม ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่ากลืนง่ายกว่าแคปซูลปกติ เช่นเดียวกับแบบเม็ดอัดหรือแคปซูล ซอฟต์เจลต้องผ่านกระบวนการในระบบย่อยอาหาร จึงออกฤทธิ์ได้ช้ากว่าแบบน้ำหรือแบบผง
7. ผง มีข้อได้เปรียบตรงที่มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า (1 ช้อนชาของวิตามินซี แบบผงหลายยี่ห้อ มีปริมาณวิตามินซีถึง 4,000 มก.) และข้อได้เปรียบในแง่ของการปราศจากสารปรุงแต่ง ตัวนำยา หรือสารอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
8. แบบเหลว ใช้สำหรับชงผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืนเม็ดแคปซูลหรือเม็ดยาได้
9. สเปรย์ในปาก ส่งผ่านสารความเข้มข้นต่ำเข้าสู่ช่องปากส่วนใต้ลิ้นโดยตรง สารอาหารจะไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร และถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางเยื่อบุภายในเวลาประมาณ 15 นาที
10. เม็ดอมใต้ลิ้น เป็นแบบเม็ดละลายใต้ลิ้น (สำหรับวิตามินบี 12 รูปแบบนี้เป็นแบบที่ผมขอแนะนำ เพราะมันจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า)
11. แผ่นปิดและแบบฝังใต้ผิวหนัง จะให้สารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะที่เขียนอยู่นี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบนี้ยังมีจำกัด และได้รับพิจารณาให้เป็นระบบที่ใช้สำหรับการนำยาเข้าสู่ร่างกายในประเทศสหรัฐอเมริกา
Cr.http://www.doohealthy.com/article/disease/medicine/212-health.html